แผ่นอะคริลิคมีคุณสมบัติที่เหมาะแก่การใช้งานหลายรูปแบบและเหมาะกับเกือบทุกอุตสาหกรรมเพราะความทนทาน เบาบาง และหยืดหยุดในการดีดแปลงรูปทรง แต่ขนาดของแผ่นอะคริลิคมีผลอย่างมากต่อการใช้งาน และแน่นอนมีผลต่อราคา เพราะยิ่งมีขนาดและความหนามากขึ้นราคาก็ยิ่งสูงขึ้นเป็นเรื่องปกติ ในอุตสาหกรรมการจัดจำหน่ายแผ่นอคริลิค ขนาดที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือขนาด 3 มิล และขนาดแบบ 5 มิล วันนี้เราจะพาคุณมาส่องว่าแผ่นอะคริลิค 5 มิลราคาสูงแต่คุ้มกว่าแผ่นอะคริลิค 3 มิลอย่างไรบ้าง

ประการแรก แผ่นอะคริลิค 5 มิลราคาแพงกว่าแบบ 3 มิลเพราะ ให้ความทนทานต่อแรงกระแทกในระดับที่สูงกว่าแผ่นอะคริลิค 3 มิล ความหนาและความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นทำให้ทนทานต่อรอยขีดข่วน รอยร้าว และความเสียหายในรูปแบบอื่นๆ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ความทนทานและความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ

ประการที่สอง แผ่นอะคริลิค 5 มิลราคาแพงกว่าเพราะมีระดับความแข็งสูงกว่าแผ่นอะคริลิค 3 มิล ซึ่งหมายความว่าสามารถทนต่อแรงดันและแรงดัดได้มากกว่าโดยไม่ทำให้เสียรูปหรือแตกร้าว ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับการใช้งาน เช่น สกายไลท์ หน้าต่าง และองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมอื่นๆ

ประการที่สาม แผ่นอะคริลิค 5 มิลราคาแพงกว่าเพราะ มีระดับความทนทานต่อสภาพอากาศสูงกว่าแผ่นอะคริลิค 3 มิล มีความทนทานสูงต่อรังสี UV และสามารถทนต่อสภาพอากาศที่รุนแรงได้โดยไม่ทำให้เหลือง ซีดจาง หรือสูญเสียความชัดเจนของแสง แน่นอนว่าทั้งสองขนาดมีคุณสมบัติเฉพาะนี้ เพียงแต่แบบ 5 มิลสามารถทนได้นานกว่าเนื่องจากมีความหนามากกว่า ทำให้ประหยัดงบได้ในระยะยาวเพราะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยนั่นเอง

อย่างไรก็ตามที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงเหตุผลหลักของแผ่นอะคริลิคโดยทั่วไปที่มีคุณภาพดีและได้มาตรฐาน(กรณีนี้หมายถึงมาตรฐานในการเปรียบเทียบที่เท่าเทียมกันหรือที่ผลิตภายใต้ยี่ห้อเดียวกัน)  ดังนั้นหากในกรณีที่คุณภาพของทั้งสองขนาดไม่เท่ากันการเปรียบเทียบเรื่องความคุ้มค่าหรือเรื่องราคาอาจต่างออกไปด้วย ดังนั้นคุณควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วน แม้หลังจากอ่านบทความนี้แล้วก็ตาม

สรุปคือแม้ว่าแผ่นอะคริลิค 3 มิล เป็นวัสดุอเนกประสงค์และคุ้มค่า แต่แผ่นอะคริลิค 5 มิล ให้ความทนทานต่อแรงกระแทก ความแข็ง ทนต่อสภาพอากาศ และความยืดหยุ่นในการออกแบบในระดับที่สูงกว่า และมีความคุ้มค่ามากกว่าแผ่นอะคริลิค 3 มิลในระยะยาวเนื่องจากความทนทานที่มีมากกว่า ปัญหาเรื่องการใช้งานจึงเกิดขึ้นได้น้อยกว่า หรือคงสภาพเดิมได้นานกว่ากัน (แต่มีโอกาสเกิดปัญหาคล้ายกันทั้งสองขนาด เช่น มีความติดเหลือง) ดังนั้นหากถามว่าแผ่นอะคริลิคสองขนาดนี้ไม่สามารถบอกได้ว่าขนาดใดที่ดีกว่าเพราะ สิ่งสำคัญคือต้องประเมินความต้องการเฉพาะในการใช้งานของคุณและเลือกขนาดที่ให้คุณสมบัติการผสมผสานที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ